โรงงานที่รับขึ้นรูปสิ่งของหรือชิ้นงาน เช่น โรงงานหล่อพลาสติก โรงงานหล่อคอนกรีต โรงงานแผ่นพื้น โรงงาน Pre-cast เป็นต้น จะมีการใช่แม่พิมพ์ (Mold) ที่ทำจากโลหะ และพบว่ามีหลาย ๆ โรงงานมีแม่พิมพ์หลาย ๆ แบบ และหยิบนำออกมาใช้พิมพ์ตามโจทย์ของผู้ว่าจ้าง ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละโรงงานก็จะต้องมีพื้นที่สำหรับเก็บแม่พิมพ์ที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อรอเอามาสับเปลี่ยนนำมาใช้ตามโจทย์ที่แตกต่างกัน ช่วงนี้เองที่พบปัญหาที่สำคัญคือ แม้เก็บในห้องอย่างดีแล้วก็ตาม แม่พิมพ์โลหะเหล่านี้มีโอกาสที่จะสัมผัสกับความชื้นในอากาศจะทำให้เกิดสนิม ในยามที่ต้องเปลี่ยนเอาแม่พิมพ์เหล่านี้ออกมาใช้งาน ก็ต้องมาเสียเวลากับการล้างสนิมออก ทำให้มี Lead Time ในการผลิตนานขึ้น เกิดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการผลิต ซึ่งมักเกิดคำถามที่ว่า Mold เป็นสนิมทำยังไงดี ? จึงเกิดวิธีในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้หลายรูปแบบ ตั้งแต่การสร้างโกดังสำหรับเก็บ Mold โดยเฉพาะไปจนถึงการวางระบบควบคุมความชื้นในอากาศ แต่วิธีการที่พบว่าดีที่สุดก็คือการใช้วัสดุกันสนิมแบบเฉพาะทางนั่นเอง
โรงงานที่มีแนวคิดที่จะลดต้นทุนเหล่านี้ออกไปมักใช้ วัสดุกันสนิม Mold แม่พิมพ์โลหะ เพราะนอกจากจะลดต้นทุนการกำจัดสนิมแล้ว ยังลดความเสี่ยงจากกรณีที่ชิ้นงานมีขนาดหรือมิติที่บิดเบี้ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานหล่อชิ้นส่วนขนาดเล็กที่ต้องการความแม่นยำในเรื่องของ Dimension ดังนั้น Packaging กันสนิม Mold แม่พิมพ์โลหะ จึงมีบทบาทสำคัญอย่างมากในวงการผลิตที่ต้องใช้แม่พิมพ์โลหะ ซึ่งรูปแบบที่พบก็จะเป็นการใช้วัสดุที่เป็น VCI แปรรูปออกมาเป็นถุงกันสนิมใส่ Mold แม่พิมพ์ และ กระดาษกันสนิมสำหรับ Mold แม่พิมพ์ สำหรับใช้เป็นวัสดุกันสนิม Mold แม่พิมพ์โลหะเป็นหลัก เพื่อนำมาตอบคำถามที่ว่า Mold เป็นสนิมทำยังไงดี ? นั่นเอง
การใช้ถุงกันสนิมใส่ Mold แม่พิมพ์ และ กระดาษกันสนิมสำหรับ Mold แม่พิมพ์ มีบทบาทอย่างมากในการเป็นวัสดุกันสนิม Mold แม่พิมพ์โลหะสำหรับวงการผลิตแบบหล่อขึ้นรูปสิ่งของต่างๆ เพราะทดสอบแล้วพบว่าช่วยลดต้นทุนการผลิตและบำรุงรักษาได้อย่างแท้จริง ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กรและช่วยให้ผู้รับผิดชอบด้านงานผลิตหรืองานบำรุงรักษามีผลการทำงานประจำปีที่ดีขึ้น บรรลุผลตาม KPI หรือ OKR ที่ท่านเหล่านี้ได้รับมอบหมาย กรณีศึกษาที่น่าสนใจคือบริษัท CEP Cummins Engine Plant มีการใช้ Packaging กันสนิม Mold แม่พิมพ์โลหะ ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการป้องกันสนิมไปได้ปีละ 3.9 ล้านบาท โดยไปลดในส่วนของค่าวัสดุแบบเดิมที่ใช้ในการแก้ไข/ป้องกันสนิมได้ 12% และลดในส่วนของค่าแรงงานในการแก้ไข/ป้องกันสนิมได้ถึง 30%